(อาจารย์เชาวนี) โอเค สวัสดีค่ะ ได้ยินเสียงพี่ไหมคะ ได้ยินชัดนะ เด็ก ๆ สวัสดีพี่ล่ามหน่อยค่ะ คุยอะไรกัน 2 คนนั้น มองนะคะ วันนี้นะคะ นักเรียน ม. 4 ห้องนี้นี่ มีเพื่อนกลับคืนมาแล้ว หลังจากสัปดาห์ที่แล้วสอนไปนิดเดียวนะคะ คนน้อยมาก ครูอยากให้นักกีฬานะคะ อยากให้นักกีฬาที่ไป ตั้งใจเรียนนะวันนี้ เดี๋ยวครูจะมีกิจกรรมให้ทำนะคะ แล้วก็จะมีการทดสอบด้วยนะคะ มันเป็นเรื่องใหม่ที่นักเรียนจะต้องได้เรียนแล้วต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของเรานะคะ นั่นก็คือเรื่องตรรกศาสาตร์ ตรรกศาสตร์เป็นเรื่องของการว่าด้วยเหตุและผลนะคะ ทำไมมันถึงสำคัญกับเรา เพราะว่าในชีวิตของเรานี่ ถ้าเราอยู่โดยไม่มีเหตุไม่มีผลนี่ มันก็จะไม่มีหาข้อยุติหาข้อสรุปในความถูกต้องไม่ได้ใช่ไหมคะ อย่างเช่น ตอนนี้ที่สำคัญมากเลย เรื่องนี้น่ะถูกนำไปใช้เรื่องอะไร การค้นหาความจริงลูก อย่างเช่นเรามีคดีนะคะ ตำรวจสอบ... มีเหตุเกิดขึ้นนี่ มีผู้ร้าย ใช่ไหม พอมีผู้ร้ายเสร็จปุ๊บเขาจะหาความจริงว่าคนนี้ทำผิดจริงหรือเปล่านะคะ เขาทำผิดจริงหรือเปล่านะ เขาต้องไปหาข้อเท็จจริง อันไหนที่จริง อันไหนที่ไม่จริงนะคะ เสร็จแล้ว นำเรื่องตรรกศาสตร์นี่แหละค่ะ มาวิเคราะห์ว่ามันน่าเชื่อถือหรือเปล่า เหมือนกับเราเหมือนกัน เวลาเราอยู่ในสังคมในโรงเรียนใช่ไหมลูก เราเป็นพี่ใช่ไหมลูก เป็นพี่หอนอน พอมีน้องทำผิด เราก็ต้องไปสอบหาความจริงใช่ไหม คนไหนทำผิดจริงหรือเปล่า จะต้องเอาเรื่องต่าง ๆ นี่มารวมกัน แล้วไปหาข้อสรุปนะคะ ว่าที่น้องเขาทำนี่ มันผิดหรือมันถูกนะคะ อันนี้เป็นพื้นฐานของความถูกต้องการมีเหตุผลจะถูกนำไปใช้ในชีวิตประจำวันมากเลย ก่อนอื่นเลย คำที่เราจะได้ยินประจำนะคะ สำหรับในเรื่องของตรรกศาสตร์ ก็คือประพจน์ ประพจน์คำนี้หมายถึงอะไรลูกประพจน์ตัวนี้ เพื่อนที่เรียนไปแล้วจำได้ไหมคะ สัปดาห์ก่อน ประพจน์ ประพจน์ก็คือประโยคนะคะ หรือว่าข้อความใช่ไหม ประโยคหรือว่าข้อความก็ได้ต้องเป็นประโยคบอกเล่านะคะ หรือว่าประโยคปฏิเสธ ที่มีค่าความจริงเป็นจริงหรือเป็นเท็จนะคะ มันจะต้องเป็นประโยคนะ หรือว่าเป็นข้อความก็ได้ มีอยู่ 2 ประโยคนี้นะคะ ที่จะเป็นประพจน์นะ ดูนะ ทีนี้ชนิดของประโยคมันก็มีเยอะเหมือนกันนะลูก ครูแยกออกมาให้ที่เป็นประพจน์นะคะ ประโยคไหนที่จะเป็นประพจน์ ก็คือประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ นี่สีแดง ถ้าดู 2 ประโยคนี้ปุ๊บ คิดเลยว่าจะต้องเป็นประพจน์แน่นอนนะคะ มันจะต้องเป็นประพจน์แน่นอน ถ้าเป็นประพจน์ปุ๊บ เอาไปหาความจริงได้ เอาไปหาค่าความจริงได้นะคะ แล้วถ้าไม่เป็นประพจน์ล่ะ ถ้าไม่เป็นประพจน์ ลูกดูประโยคหรือว่าข้อความนั้นนะคะ ประโยคคำสั่งต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้นะคะ คำสั่ง อันนี้คือไม่เป็นประพจน์แล้ว หรือว่าประโยคขอร้อง ประโยคข้อร้อง ช่วยฉันหน่อย ช่วยทำอันนี้หน่อย กรุณา ขอร้อง นะคะ และประโยคคำถาม วันนี้กินข้าวหรือยัง เธอชอบสีอะไร นี่เป็นประโยคคำถามนะคะ ไม่เป็นประพจน์ เพราะอะไร เพราะหาค่าความจริงไม่ได้นะคะ ไม่มีค่าความจริง หรือว่าประโยคอุทาน อุ๊ย ตายแล้ว คุณพระช่วย นี่เป็นประโยคอุทานที่เราตกใจหรือว่าเห็นแล้วแบบดีใจมาก ๆ ตะโกนออกมานะคะ ก็คือเป็นประโยคอุทานซึ่งประโยคต่าง ๆ นอกเหนือจากบอกเล่ากับปฏิเสธ ไม่เป็นประพจน์นะคะ ทีนี้ดูนะ สรุปประพจน์นะคะ ครูดูให้แล้ว ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธนะลูก มันจะมีค่าความจริงอยู่ 2 อย่าง ก็คือค่าความจริงกับเป็นเท็จ เป็นจริงกับเป็นเท็จ เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นประโยคบอกเล่าแล้วก็ประโยคปฏิเสธ มีค่าความจริง สุดท้ายเลย คือ ประพจน์ หาค่าความจริง ก็คือตอบไม่ได้ หาค่าความจริง ก็คือตอบไม่ได้นะคะ ไม่เป็นประพจน์ ไม่เป็นประพจน์นะคะ วันนี้นะคะ ครูจะให้นักเรียนดูประโยคต่อไปนี้นะคะ ที่ครูติดบนกระดาน เสร็จแล้วนักเรียน ครูจะแจกประโยคให้นักเรียนทุกคนนะคะ คนละ 2 ประโยค เสร็จแล้วให้นักเรียนดูว่าประโยคที่ครูแจกให้นักเรียนของแต่ละคนนั้น เป็นประโยคประเภทไหน ชนิดไหนนะคะ ดูนะ จะช่วยไปหยิบประโยคไปแจกเพื่อนคนละ 2 ประโยคลูก ให้เพื่อนเลือกได้เลยว่าจะเอาอันไหน คนละ 2 แจกให้เลย เหลือไหมเหลืออีก 2 นะคะ เพื่อนยังไม่มาอีก 1 คน ไม่เป็นไรนะคะ ครูปิ๊กเล่นด้วย ครูปิ๊กเล่นด้วย ดูพี่ล่ามก่อนนะ นักเรียนดูพี่ล่ามนะคะ ทุกคนจะมีประโยคอยู่ในมือ 2 ประโยค ทีนี้ดูนะว่าประโยคแต่ละประโยคที่นักเรียนได้นี่มันจะต่างกัน ดูแล้วก็แยกประเภทนะคะ ชนิดของประโยคที่ครูเขียนไว้บนกระดาน อันไหนของตัวเอง นักเรียนต้องรู้ว่าประโยคของตัวเองที่นักเรียนจับได้นี่มันคือประโยคอะไรนะคะ แล้วให้ออกมาเขียนบนกระดานนะ เสร็จแล้วเราจะมาหาค่าความจริงของประโยคด้วยกันว่ามันเป็นหรือว่าไม่เป็นประพจน์นะ อันแรกใครได้เอ่ย นี่ข้อแรกใครได้ยกมือขึ้น ดู อย่าเพิ่ง ดูพี่ล่ามด้วย แล้วดูบนจอลูก อันนี้ใครได้ ประโยคนี้ คือ 1 สัปดาห์ มี 7 วัน 1 สัปดาห์ มี 7 วัน มันเป็นประโยคอะไรคะ ประโยคบอกเล่าหรือเปล่า มันเล่ามันบอกหรือเปล่า หรือว่าเป็นประโยคปฏิเสธ เป็นประโยคอะไรลูก เป็นประโยคอะไรครูปิ๊กถาม... อะไรนะ ใช่ ๆ อันนี้คือข้อความ 1 สัปดาห์ มี 7 วัน มันเป็นประโยคอะไร ถามก็คือมันเป็นประโยคอะไร เป็นประโยคคำถามเหรอ ไม่ใช่นะคะ มันไม่ใช่ประโยคคำถาม มันเป็นประโยคบอกเล่า มันเป็นประโยคบอกเล่านะคะ มันเป็นชนิดประโยคบอกเล่า มันเป็นบอกเล่า ชนิดที่ 1 นะคะ ประโยคบอกเล่า ลูกต้องจำด้วยนะ ต้องจำด้วยนะ ว่าประโยคของตัวเองเป็นประโยคบอกเล่า ก็คือตัวนี้นะคะ บนกระดานนี่ลูก บนกระดานที่ครูเขียนประโยคเอาไว้ประโยคบอกเล่า อันนี้นะ อย่าเพิ่งออกมา อย่าเพิ่งออกมา ให้จำว่าของตัวเองนะคะ อยู่ตรงไหน ประโยคบอกเล่านะคะ 1 สัปดาห์มี 7 วัน เป็นประโยคบอกเล่า อันที่ 2 ช่วยปิดประตูด้วย ประโยคนี้ใครคะ ใครได้ลูก ใครได้ ประโยคนี้ ยกมือขึ้น ใครได้ ดูนะ ช่วยปิดประตูด้วย เป็นประโยคอะไร คำว่า "ช่วย" นะลูก ต้องเป็นประโยคอะไรคะ ประโยคอะไร บอกเล่าไหม บอกเล่าถูกไหม บอกเล่าไหม คำว่า "ช่วย" นะคะ หรือว่าประโยคปฏิเสธ ถ้าประโยคปฏิเสธ มันจะต้องมีคำว่า "ไม่" อยู่ด้วยนะคะ แต่อันนี้ไม่มีนะคะ ประโยคขอร้อง ขอร้อง คำว่า "ช่วย" นี่ คือ การขอร้องนะคะ คือ การขอร้อง เพราะฉะนั้น "ช่วยปิดประตูด้วย" เป็นประโยคอะไร อยู่ไหน ๆ ๆ เป็นประโยคขอร้องนะคะ คือ ขอให้ช่วย คือ ประโยคขอร้อง ตอนนี้มีทั้งหมด 6 ชนิดที่ครูเขียนบนกระดานนะคะ นักเรียนสังเกตแล้วก็ดูของตัวเองนะ อันนี้ ต่อมาข้อที่ 3 ใครได้ พันพันดูนะ ไปเดินเล่นกันไหม ไปเดินเล่นกันไหม มันเป็นคำถาม ดูสินะ มันเป็นคำถามไหม เธอจะไปกับฉันไหมน่ะ ไปเดินเล่นน่ะ เป็นการถาม ถูกไหมคะ เป็นการถาม เพราะฉะนั้น อันนี้เป็นประโยคคำถาม ถูกต้อง คือ ประโยคคำถาม ถามเขาว่าไปเดินเล่นกันไหม เป็นประโยคคำถาม ต่อมา ใครได้ข้อนี้ ข้อ 4 ลูก 1 + 2 + 3 + 4 = 10 ใครได้ ข้อนี้เป็นประโยคบอกเล่านะคะ เป็นประโยคบอกเล่าที่บอกว่าฝั่งซ้ายมือนี่ 1 2 3 4 เอามารวมกัน มันเท่ากับ 10 นะ โอเคไหม เป็นประโยคบอกเล่านะลูกนะ ตัวนี้จำได้ไหมคะ สัญลักษณ์นี้ เรื่องของเซตที่เราเรียนมาตั้งแต่เริ่มเปิดเทอม เขาบอกว่า 3 เป็นสมาชิก อันนี้ของใครนี่ดู 3 เป็นสมาชิกของเชต 1 2 3 ถูกหรือเปล่ามันเป็นประโยคบอกเล่า ทีนี้มาดูว่ามันถูกหรือมันผิดลูก มันใช่ไหม มี 3 อยู่ไหนเซตนี้ไหม มีไหมลูก มี 3 อยู่ในเซตนี้ไหม มีไหม พบไหม มีไหม มีนะคะ เห็นไหม 3 มันอยู่ข้างในเซต 3 มันเป็นสมาชิกของข้างในเซตนี้นะคะ อันนี้ค่าความจริงมันก็จะกลายเป็นจริง ประโยคนี้เป็นประโยคบอกเล่านะลูกนะ ประโยคบอกเล่า จำให้ได้นะ ว่าประโยคของตัวเองเป็นประโยคประเภทไหนชนิดไหนนะคะ อันนี้ใคร ประโยคต่อมาใครคะ เขาบอกว่าอะไร คำแรกขึ้นมาเลย เขาบอกว่าอะไร ถูกต้อง "ห้ามกินขนมในห้องเรียน" ประโยคอะไรลูก ห้าม เป็นประโยคคำสั่ง ใช่ไหม ห้ามเลย เด็ดขาดเลย ห้าม ไม่ได้ เป็นประโยคคำสั่ง คืออยู่ในนี้เป็นประโยคคำสั่งบอกว่าไม่ให้กินนะคะ "ห้ามกินขนมในห้องเรียน" โอเคนะ อันนี้คือประโยคคำสั่ง ประโยคต่อมาใครได้ยกมือขึ้น ไออุ่นนะคะ ไออุ่นอันนี้คืออะไรลูก คืออะไร ประโยคนี้ เขาแปลว่าอะไร แปลว่าอะไร ใช่ ไก่ มี 4 ขา ใช่ ไก่มี 4 ขา เป็นประโยคอะไรคะ เป็นประโยคอะไรลูก เป็นการเล่าใช่ไหม เป็นการเล่า ถูกต้องนะคะ เป็นการเล่า เยี่ยม อันนี้ใครได้ข้อนี้ ไออุ่น... ทำไมไม่สลับเลย เรียงข้อเลย ดีมาก เหมือนกันลักษณะเดียวกันกับข้อนี้นะคะ เป็นประโยคบอกเล่าเหมือนกัน ประโยคบอกเล่าเหมือนกันแต่ค่าความจริงมาดูอีกทีหนึ่ง ว่ามันเป็นจริงหรือเป็นเท็จนะลูกนะ อันนี้เขาบอกว่า 8 นี่เป็นสมาชิกของเซต 1 2 3 ใช่หรือเปล่านะคะ เป็นประโยคบอกเล่าแต่ว่ามันจริงหรือเปล่าหรือมันเท็จ เดี๋ยวดูต่อไป อันนี้คือประโยคบอกเล่า อยู่ตำแหน่งไหน ใช่ ประโยคบอกเล่านะคะ ประโยคนี้ครูปิ๊กได้เอง "อุ๊ย ตายแล้ว " "อุ๊ย ตายแล้ว" เป็นประโยคอุทานนะคะ อันนี้ อุทานเลย อุทานแน่นอนนะคะ ต่อมาประโยคนี้ครูปิ๊กก็ได้อีก เขาบอก "ครูปิ๊กไม่ชอบกินผัก" อันนี้เป็นการเล่านะคะ เป็นการเล่า ครูปิ๊กนี่ไม่ชอบกินผัก ก็เป็นประโยคบอก เอ้ย ประโยคปฏิเสธเพราะอะไร มีคำว่าอะไรคะ มีคำว่า "ไม่" เห็นไหม มันมีคำว่า "ไม่" เป็นประโยคปฎิเสธนะคะ ไม่ ไม่ชอบเลย ประโยคปฏิเสธอยู่ไหน อยู่นี่ อันนี้คือประโยคปฏิเสธ ก็จะอยู่ใน... ครูปิ๊กก็จะเอามาวางไว้อยู่ตรงนี้ บนกระดานนะคะ เสร็จแล้ว ใครได้ลูก เจ็ก อันนี้แปลว่าอะไร อันนี้แปลว่าอะไร นี่ ประโยคนี้แปลว่าอะไร ถูกต้อง เป็นประโยคคำถาม เก่งมาก "เธอรักฉันหรือเปล่า" ถามเขาไปใช่ไหม เขาก็จะตอบ อันนี้คือประโยคคำถามแน่นอน อยู่ตรงไหนลูก รู้แล้วเป็นประโยคคำถาม ข้อนี้ล่ะ ของใคร ประโยคนี้ของใครได้ เจ็กเหมือนเดิม อันนี้ก็เป็นประโยคอะไรลูกเป็นประโยคบอกเล่า เป็นประโยคบอกเล่านะคะ เขาให้หาว่า 2 - 2 + 2 = 0 จริงหรือเปล่า ค่าความจริงดูอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเป็นแบบนี้นะคะ มีอยู่ 2 ฝั่ง ถ้าเป็นสูตรทางคณิตศาสตร์นะ มีอยู่ 2 ฝั่ง ใส่สมการแบบนี้ ถ้าไม่มีตัวแปร ไม่มีค่าตัวแปร แสดงว่าเป็นประโยคบอกเล่านะคะ อะไร ประโยคนี้ฮานอย ประโยคบอกเล่า เก่ง ๆ ๆ อันนี้ก็คือธงชาติไทยมี 3 สีลูก เป็นประโยคบอกเล่านะคะ ใครได้อะไร คำสั่ง ห้าม ห้ามเลย เป็นประโยคคำสั่ง ห้ามเดินผ่านเยี่ยม เป็นประโยคคำสั่งนะคะ อ่านประโยคแล้ว อ่านเข้าใจนะลูก ดีมาก อันนี้ประโยคช่วยปิดเสียงโทรศัพท์ด้วย อันนี้ประโยคอะไร คำว่า "ช่วย" ประโยคอะไร ประโยคขอร้อง เยี่ยมมาก สุดท้ายใครได้ ได้ติดกันเลย ช้างมี 3 ขา อันนี้เป็นประโยคอะไร ถูกต้องนะคะ เก่งมาก มันเป็นประโยคบอกเล่า แต่เราไม่รู้ว่ามันจริงมีค่าความจริงเป็นอะไรนะคะ ทีนี้ให้ลูกออกมาติดประโยคนะคะ ของตัวเองบนกระดานนะคะ ติดให้อยู่ในประเภทของประโยคให้ถูกต้อง เดี๋ยวเรามาเช็กกันอีกทีนะคะ ว่าเพื่อนติดถูกหรือเปล่า เจ็กออกมาก่อนลูก ออกมาติดเลย ประโยคออกมาติดกระดาน ที่เขียนแล้ว ฮานอยออกมาต่อ ออกมาเลยลูก ดูนะว่าเพื่อนที่ไปแข่งกีฬาจะเข้าใจไหมนะ จะติดถูกหรือเปล่าช่วยปิดประตูด้วย เพื่อนช่วยเพื่อนหน่อย อันนี้อะไรลูก เดี๋ยวเรามาช่วยกันตรวจนะคะ ว่าติดกันถูกหรือเปล่าครูมองนะ กลุ่มที่เราจัดนะคะ เริ่มประโยคบอกเล่าก่อนนะ เริ่มประโยคบอกเล่ามีทั้งหมดที่เพื่อนเอามาติด มี 9 ประโยคด้วยกัน 3 เป็นสมาชิกของ 1 2 3 เซต 1 2 3 อันนี้ถูกนะคะ เป็นประโยคบอกเล่า อันนี้ใครเป็นคนติดยกมือขึ้น ใครเป็นคนติดลูกอันนี้ ติดถูกนะคะ ติดถูกนะคะ ข้อนี้ ประโยคต่อมา 1 สัปดาห์มี 7 วัน อันนี้ก็อยู่ถูกนะคะ ถูกที่เลย ช้างมี 3 ขา ประโยคบอกเล่าเหมือนกัน 2 - 2 + 2 = 0 ประโยคบอกเล่า ถูกต้อง ธงชาติไทยมี 3 สี อันนี้ก็ประโยคบอกเล่านะคะ ไก่ มี 4 ขา อันนี้ก็เป็นประโยคบอกเล่า 8 เป็นสมาชิกของเซต 1 2 3 เป็นประโยคบอกเล่า ถูกต้อง อันนี้ของใครเอ่ย ไปเดินเล่นกันไหม ไปเดินเล่นกันไหม เป็นประโยคอะไรลูก บอกเล่าเหรอ ไม่ใช่นะ มันเป็นอะไรคะ เพื่อน ๆ ช่วยหน่อย เป็นประโยคอะไร เพื่อนตอบสิ ใช่ เป็นคำถาม เป็นคำถาม มาเปลี่ยนใหม่เลย ประโยคคำถามอยู่ไหนะคะ ออกไป หยิบไปใส่ตรงประโยคคำถามได้ เชิญค่ะ อีกข้อ 1 ถูกนะคะ ที่บอกว่าเป็นประโยคบอกเล่า 2 + 3... 1 + 2 + 3 + 4 = 10 นะคะ เป็นประโยคบอกเล่า มีสลับคนเดียวนะคะ ไปเดินเล่นกันไหม เป็นคำถาม เป็นคำถาม อยู่ไหน เป็นคำถาม อยู่ไหน ถูกต้อง เยี่ยมมาก ประโยคปฏิเสธมีอยู่อันเดียว คือ ครูปิ๊กไม่ชอบกินผัก อันนี้ถูกต้องนะคะ เป็น เอาประโยคมาใช้ได้ถูกต้อง มาวางจัดกลุ่มได้ ทีนี้ประโยคขอร้องมีอยู่ 2 ประโยคนะคะ ของใครก็ไม่รู้แหละ ช่วยปิดโทรศัพท์ ช่วยปิดเสียงโทรศัพท์ด้วยกับช่วยปิดประตูด้วย อันนี้เป็นประโยคขอร้อง ขอให้ทำ ถูกต้องนะคะ ดีมาก ข้อนี้ถูกนะคะ ไม่มีสลับเลย ทีนี้ประโยคคำถามประโยคคำถามเธอรักฉันหรือเปล่า เธอรักฉันรือเปล่า เป็นคำถามนะคะ ไปเดินเล่นกันไหม นี่เป็นการชวนคำถามนะคะ 2 ประโยคนี้ นะคะ ห้ามเดินผ่านสนามหญ้า ห้าม มีคำว่าห้ามนะคะ แล้วก็ห้ามกินขนมในห้องเรียน นี่ ประโยคคำสั่ง สั่งเลย ถ้าสมมติเราไปกินขนมในห้องเรียน มันก็จะมีกฎมีบทลงโทษใช่ไหมคะ ก็คือการห้ามประโยคคำสั่งนะคะ ประโยคอุทาน อุ๊ย ตายแล้ว มีอยู่คำเดียว มีอยู่ประโยคเดียวเอง ทั้งหมดเก่งมากเลยนะคะ ที่ติดประโยคได้ถูกต้อง ทีนี้ครูถามว่าประโยคที่เป็นประพจน์ เราจะเลือกตัวไหนลูก เฉพาะอะไรคะ มีอยู่ 2 ประโยคเท่านั้น คือ ประโยคบอกเล่ากับประโยคปฏิเสธ กลุ่มนี้เป็นประพจน์หมดเลย ซีกนี้ทั้งซีกเลย เอาออก ไม่ใช่ประพจน์แน่นอน นี่ นี่นะ ประโยคขอร้อง ประโยคคำสั่ง ประโยคคำถาม ประโยคอุทาน ซีกนี้ฝั่งด้านซ้ายมือไม่เป็นประพจน์แน่นอนนะคะ เพราะมันไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แล้วก็ไม่ใช่ประโยคปฏิเสธมีกี่ประโยคคะ ที่ยังเหลืออยู่ มีอยู่ 7 ประโยคนะคะ ที่ยังเหลืออยู่ โอเคนะ มีอยู่ 7 ประโยคลูก มีอยู่ 7 ประโยคนี่ ก็คือประโยคบอกเล่ากับประโยคขอร้อง ทีนี้ ครูจะแจกกระดาษให้นักเรียนนะคะ ให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มนะ คนละ กลุ่มหนึ่ง 3 ก3 กลุ่มหนึ่ง 4 แล้วกันลูก เดี๋ยวเอาเก้าอี้เข้าหากันนะคะ เอาโต๊ะเก้าอี้เข้าหากัน ทำงานเป็นกลุ่ม ซีกนี้เป็น 3 คน 3 คน เดี๋ยวรอเพื่อนมานะคะ ก็รวมเป็น 4 เลย ครูจะแจกกระดาษให้นะคะ พร้อมกับตัวนี้นะ พร้อมกับตัวนี้ ให้นักเรียนตัดแปะนะคะ คำประโยคพวกนี้น่ะ ใส่ในกรอบให้ถูกต้อง เข้าใจนะ ถ้าทำถูกแล้วนะคะ ถ้าทำถูกแล้ว ตัดประโยคเสร็จปุ๊บ ตัดแปะเรียบร้อยนะคะ ให้มาดูอย่างนี้ทีนี้ อันไหนที่เป็นประโยคบอกเล่า ดูตัวอย่างในกระดานนะ บอกเล่ามีอยู่ 8 ประโยคลูก 8 ประโยคที่ลูกเลือกออกมา หาค่าความจริง ค่าความจริงมีอยู่ 2 ค่าถูกไหม คือ เป็นจริงกับเป็นเท็จนะคะ เป็นจริงกับเป็นเท็จดูว่าประโยคนี้เป็นจริงหรือเปล่า 3 เป็นสมาชิกของเซต 1 2 3 ไหม 3 มันอยู่ แสดงว่าเป็นจริงถูกไหม เป็นจริง เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็จะใส่ตรงนี้นะคะ เหลี่ยมตรงนี้ให้ใส่ค่าความจริง ฝั่งด้านนี้ให้ใส่ประโยค ให้ใส่ประโยคลงไป แต่จะต้องเป็นประโยคบอกเล่านะลูก พวกนี้ลูกเขียนลงไป เข้าใจไหม เอาใหม่ ดูพี่ล่ามนะ ดูพี่ล่ามนะ ครูจะแจกกระดาษให้ลูก ครูจะแจกกระดาษให้ พร้อมกับประโยค ให้ลูกไปตัดประโยคนั้นนะคะ ไปตัดประโยคนั้น เอาไปติดให้ตรงกับช่องของชนิดประโยค ให้ตรงกัน ให้ตรงกันนะคะ เลือกเอาเฉพาะ 2 ประโยคนะคะ ประโยคบอกเล่า กับประโยคปฏิเสธมาเขียน เอาประโยคมาเขียนลงในช่องนี้ ที่เป็นกรอบแบบนี้ เป็นค่าความจริงเขียนลงไป ประโยคนี้มีค่าความจริงเป็นอะไร เป็นจริงหรือเป็นเท็จ แค่นั้นเอง งานนี้ครูจะให้ทำเป็นกลุ่มครูไม่ให้ทำเดี่ยว โอเคไหม โอเคนะลูก เดี๋ยวจัดโต๊ะใหม่ หันเข้าหากันนะคะ 4 คนนี้ หันเข้ามา กลุ่มละ 4 กลุ่มละ 4 มา (อาจารย์เชาวนี) ลูกคะ มองนะ ทีนี้เราจะเรียนเรื่องตัวเชื่อมนะคะ ตัวเชื่อม การเชื่อมประพจน์ เราดูแล้วว่าข้อความไหนที่มันเป็นประพจน์ใช่ไหมคะ ทีนี้เรามาเรียนเรื่องการเชื่อมประพจน์ เข้าด้วยกัน การเชื่อมประพจมันหมายถึง จะต้อง แน่นอน มันจะต้องมี 2 ประพจน์ ขึ้นไป เขาก็เลยให้ว่าสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์นะคะ ประพจน์แรกให้เป็นตัว P นะลูก ตัวที่ 1 นะคะ ประพจน์ตัวที่ 2 ที่เอามเชื่อม อันนี้คือตัว q สัญลักษณ์ตัวนี้ คือ แทนประพจน์นะคะ ประพจน์เราเรียนไปแล้วนะ คือ ค่าความจริงใช่ไหมคะ ที่มีค่าความจริงหรือเป็นเท็จก็ได้ ทีนี้การจะเชื่อมประโยคนะคะ การจะเชื่อมประพจน์เข้าหากัน 2 ประพจน์ นี่ ดูนะ ค่าความจริงมันมีแค่ 2 ค่าถูกไหมคะ มีแค่ค่า T กับค่า F คือเป็นจริงกับเป็นเท็จ ประโยคแรกเป็นจริง กับเป็นเท็จ ถ้าเมื่อไหร่ที่ไปจับคูกันกับประพจน์นะคะ ตัวที่ 2 ปุ๊บนะลูก ตัวที่ 2 ก็มีค่าความจริงเป็นจริงกับเป็นเท็จ ถูกไหม เวลามันจับคู่กัน เรื่องอันนี้ เรื่องความน่าจะเป็นนะคะ เรื่องโอกาสที่จะเกิดขึ้น เดี๋ยวเราจะเรียนต่อไปในเทอม 1 เทอม 2 นะคะ ของ ม. 4 นะ ตัวนี้ เวลาเราจับคู่กัน ประโยคแรกเป็นจริง ประโยคที่ 2 เป็นจริงนะคะ ตารางค่าความจริงมันก็เลยวิ่งมาหาตรงนี้ ลูกดูนะ ตัวข้างหน้า ตัว p เป็นจริง ข้างหลังก็เป็นจริงเหมือนกันนะคะ ในตารางให้วิ่งมาเลยนะคะ จับคู่กันมา มาหาตรงนี้ในตาราง จริงกับจริงนะคะ อันนี้คือค่าความจริงของตาราง เวลาเราเอาประพจน์มานะคะ ทีนี้ ตัวนี้ล่ะ ถ้า P เป็นจริง q เป็นเท็จนะคะ โยงมาเลยนะ ตรงนี้ มาใส่ตารางช่องนี้ เป็นจริง แล้วก็เป็นเท็จนะคะ ค่าที่มันจะเกิดขึ้นได้ โอกาสที่มันจะเกิดขึ้นได้มันมีอยู่แค่นี้นะคะ ทีนี้ถ้าประพจน์ตัวแรกเป็นเท็จล่ะ ประพจน์ตัวที่ 2 มันจะจับคู่กัน เท็จมาวิ่งมาหาจริง เห็นไหมคะ เท็จมา แล้วก็จริง อันสุดท้าย คู่ที่ 4 นะคะ เมื่อประพจน์ตัว P แรกนะคะ ตัว P นี่ ประพนจ์แรกนี่เป็นเท็จ กับเท็จ มันก็จะออกมาเป็นตารางแบบนี้ กี่คู่ มีอยู่ 4 ด้วยกัน จริง จริง จริง เท็จนะคะ เท็จแล้วจริง เท็จแล้วก็เท็จ อันนี้คือค่าความจริงที่มันจะเกิดขึ้น โอเคนะ วิธีการหาค่าตรงนี้ง่ายมาก แค่ลูกจับคู่นะคะ นี่ ที่โยงเส้นนี่ ข้างหน้ามีอยู่ 2 ตัวนะคะ ตัวข้างหลังมันก็เกิด 2 ตัวเหมือนกัน แต่เมื่อไหร่ที่มันมาจับคู่กันน่ะ มันก็เกิดออกมาเป็น แตกออกมาเป็นแบบนี้ เป็นแผนภูมิต้นไม้นะคะ เหมือนเป็นแตกกิ่งออกมานะ ตัว T ตรงนี้ ฟึ้บ มาใส่ตาราง T เหมือนกัน จับคู่ตัวนี้ T F มาใส่ตรงนี้นะคะ F F มาข้างหน้าบ้าง F T F F เข้าใจนะ ถามไหมคะ ถามไหม เข้าใจ ทีนี้มาดูคำเชื่อมลูก คำเชื่อมมันมีอยู่ 5 ตัว ตัวเชื่อมนะคะ มีทั้งคำภาษาไทยและมีคำเชื่อมทางคณิตศาสตร์ ทางคณิตศาสตร์นะคะ วิธีการเชื่อมมีอะไรบ้าง มีอยู่ 5 ตัว คำเชื่อมคำแรกคืออะไร คะ และ นี่ และ และ เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นตัวนี้ และ ปุ๊บ สัญลักษณ์ คือ ตัวนี้ลูก เหมือนตัว V คว่ำ ถ่างอยู่ เหมือนหมวกน่ะ ใส่หมวก นี่เห็นไหม ถ้าทางคณิตศาสตร์ถ้าเห็นสัญลักษณ์แบบนี้ มันหมายถึง และ มันหมายถึงแลอันที่ 2 หรือ หรือ ตัวนี้นะคะ สัญลักษณ์หงายหมวกขึ้น เป็นตัว v นั่นแหละ เหมือนกับตัว V นะคะ อย่าจำสับสนนะ ถ้า และ มันจำคว่ำ ถ้าหรือมันจะอะไรคะ มันจะหงาย นี่มันจะหงาย ทีนี้มาดูกันว่าตัวที่ 3 คืออะไร ถ้า... ถ้าเหตุการณ์แรกเกิด ถ้าเหตุการณ์แรกเกิดขึ้น แล้วเหตุการณ์ที่ 2 ต่อมานะคะ สัญลักษณ์ก็คือตัวนี้ ใช่ ลูกศรนะคะ ชี้ไปทางที่มันจะเกิดตามนะคะ ตัวนี้ ตัวที่ 4 ก็ต่อเมื่อตัวที่ 4 ก็ต่อเมื่อ สัญลักษณ์เป็นอย่างไรคะ หัวลูกศร มีเหมือนกัน เกิดขึ้นทั้ง 2 ทิศทางเลยนะคะ หัวลูกศร ดูนะ มันจะไปทั้ง 2 ทิศทาง ทำตัวนี้ก็ต่อเมื่อสัญลักษณ์เป็น 2 ตัวนะ และอันที่ 5 นิเสธนะคะ นิเสธคืออะไร นิเสธ คือ ตรงกันข้าม คือการตรงกันข้ามนะคะ นี่สัญลักษณ์เหมือนตัวลบนะ ตัวลบนะ แต่มันเป็นคลื่น มันเป็นคลื่นหน่อย เขียนง่าย อันนี้ ถ้ามันอยู่ข้างหน้านะคะ และเวลาเอาประโยคนะคะ เอาประพจน์มาเชื่อมกัน 2 ประพจน์นี่ โดยใช้สัญลักษณ์ตัวนี้ ดูนะ ครูจะให้นักเรียนดูตารางค่าความจริงนะ นี่ อันนี้คือและนะคะ สัญลักษณ์เป็นแบบนี้ เหมือนใส่หมวก เอา 2 ประโยคนี้มาเชื่อมหากัน ประพจน์ตัวที่ 1 เป็นอะไรคะ p ใช่ไหม ประพจน์ตัวแรกคือ p ลูก ไออุ่นดู ประพจน์ ตัวแรก คือ p ประพจน์ตัวที่ 2 คือ q เมื่อไหร่ก็ตามที่เอาประพจน์ 2 อันนี้มาเชื่อมกัน เชื่อด้วยคำว่า "และ" เขาใช้สัญลักษณ์ตัวนี้นะคะ เหมือนตัว V คว่ำลงใส่หมวกนะคะ และ ถ้าจะเกิดขึ้น ให้ดูตามนี้ จะเป็นจริงก็ต่อเมื่อมีตัวจริงทั้ง 2 ค่า เกิดขึ้นทั้ง 2 พร้อม ๆ กันนะคะ แต่ถ้าเมื่อไหร่อันหนึ่งจริงอันหนึ่งเท็จ แสดงว่าพอมาเชื่อมกันมันจะกลายเป็นเท็จ เข้าใจนะ โอเคนะ อันนี้อันนี้ หรือ หรือนี่ ไม่จำเป็นจะต้องมีทั้งสองใช่ไหมคะ อันหนึ่งก็ได้ อันใดอันหนึ่งก็ได้ อย่างเช่น นี่ จริง กับ เท็จ มีจริงอันเดียว แสดงว่าเป็นจริงได้เลยนะคะ เท็จ หรือ จริง อันนี้มีจริงอยู่ด้วย เป็นจริงได้เลยนะคะ อันไหนที่มีจริง แสดงว่าตัวนี้ ตัวแรกที่เป็นหรือนี่ มีจริง อันใดอันหนึ่งค่าความจริงก็จะเป็นจริงนะคะ แต่ตัวสุดท้าย F F เป็นเท็จกับเป็นเท็จ ตัวสุดท้ายไม่มีจริงเลย แสดงว่าเป็นเท็จนะคะ เข้าใจไหม โอเค เดี๋ยวครูจะให้นักเรียนดูบนกระดานนะคะ เดี๋ยวครูจะพาทำนะ เดี๋ยวเอาสมุดขึ้นมานะคะ เอาสมุดขึ้นมาเขียนตัวนี้ก่อน สมุดนักเรียนมาบันทึกตัวนี้ก่อน แล้วก็สร้างตารางแบบนี้เอาไว้นะคะ มีแต่คนไม่ได้เอาสมุดมา เก่งมาก มีอยู่คนเดียว เยี่ยม ปรบมือให้เพื่อนหน่อย เอาสมุดมาเรียนอยู่คนเดียว มีใครบ้างที่เอาสมุดมา มีอยู่ 2 คนนะ อีก 5 คนล่ะ เอาไปฝากไว้หอนอนเหรอลูก ไม่เอานะ อย่างนี้ต่อไป ต่อไปต้องเอามาด้วย เอาเข้ามาเรียนด้วย เพราะบางครั้งครูจะให้นักเรียนบันทึกเหมือนกันนะคะ ตารางเชื่อมประพจน์นะคะ เดี๋ยวนักเรียนเชื่อมตัวนี้ไปเดี๋ยวครูจะแจกกระดาษให้ ส่วนที่เหลือ 5 คน จะต้องทำงาน 2 ครั้ง ลอกลงไปในกระดาษ เสร็จแล้วเอาไปใส่ในสมุดนะคะ บันทึกตัวนี้ลงไปก่อนนะคะ ออกมาเอากระดาษไปเขียนลูก ลูกเสร็จแล้วนะคะ ทีนี้ลูกมาดูนะคะ ตารางค่าความจริงเมื่อมีตัวเชื่อมนะ ตัวแรก และ ลูกดูนะ ทั้งหมดดูนะคะ สัญลักษณ์และคืออะไร คล้ายหมวกเลย ประพจน์ตัวที่ 1 p และ q เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีคำว่า "และ" นะคะ มีทั้ง 2 ค่ามันถึงจะเป็นจริงได้นะคะ เป็นจริงทั้งคู่ มันถึงจะเป็นจริง เพราะฉะนั้น ค่าความจริงของตัวนี้นะคะ ลูก p และ q จะมีค่าความจริงก็ต่อเมื่ออะไรคะ มันเป็นคู่ คู่กันเลย จริงกับจริง มันจะคู่กันเลยนะคะ ตัวนี้ คือ จริง แต่อันนี้มันมีจริงไหมคะ มันไม่เป็นคู่นะคะ คู่ไม่มี เพราะฉะนั้น 3 ตัวนี้จะเป็นเท็จนะคะ เท็จทั้งหมดเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่ดูสัญลักษณ์ และ นะคะ ตัวเชื่อมเป็น และ จะเป็นจริงกรณีเดียว ก็คือเป็นจริงทั้งคู่นะคะ เป็นจริงทั้งคู่ ดูนะ จำได้ไหม อันนี้สำคัญ จะเป็นจริงทั้งคู่ ก็ต่อเมื่อ ข้างหน้าเป็นจริง ข้างหลังก็เป็นจริง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเท็จแม้แต่อันเดียวเข้ามา มันจะกลายเป็นเท็จทั้งหมดเมื่อเรามาเชื่อมด้วยคำว่า "และ" นะคะ ทีนี้ หรือ คำนี้ หรือ ตัวนี้ สัญลักษณ์นะคะ หงายขึ้นเหมือนตัว V เลยนะคะ หรือนี่ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้นะคะ ที่เป็นเท็จ ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ ที่เป็นจริง ถือว่าจริง เอาใหม่นะคะ ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ ที่เป็นจริง ขอ 1 ตัวที่เป็นจริง ใน 2 ประโยคนี้ ขอตัวเดียวนะคะ เมื่อเอามาเชื่อมประโยคมันก็จะกลายเป็นจริงทันที ทีนี้จริงกับจริง มีมากกว่า 1 อีก แน่นอน อันนี้อยู่ในกฎเลยนะคะ จริงมีตัวหนึ่ง อย่างน้อย 1 ตัว เพราะฉะนั้น ตัวนี้จริง อันนี้มี T ตัวหนึ่ง จริง สรุปก็คือจริง ไม่มี T เลยสักตัว เพราะฉะนั้น จะเป็นเท็จ มองแล้ว... มองเห็นอะไรคะ อยู่ในตารางนี้ลูก มองเห็นอะไร จะเห็นว่าตารางที่มีค่าความจริงเยอะมาก ก็คือตารางหรือ ถูกไหมนะ นี่ ถ้าใช้คำว่า หรือ มา อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เลือกนะคะ มีจริงตัวเดียวนี่ มันเป็นจริงหมดเลยนะคะ ทั้ง 2 ประโยค ประโยคไหนที่เป็นจริง โอกาสมันก็จะเป็นจริงนะคะ โอเคนะ ทีนี้ ต่อมานะคะ นิเสธ นิเสธ คือ ตรงกันข้าม อันนี้ง่ายมากนะลูก นิเสธคือตรงกันข้ามตรงกันข้ามดู อันนี้ T ใช่ไหมคะ นิเสธของ p คืออะไรลูก ก็มาดู อันนี้คือ T ใช่หรือเปล่า ตรงข้ามกับ T คืออะไรคะ ตรงกับข้ามกับ T ก็คือเท็จใช่ไหม ก็คือเท็จถูกไหม T ไม่ใช่ T P P ตัวนี้มันเป็นจริง เพราะฉะนั้น ตัวนี้จะต้องเป็นเท็จถูกไหมคะ อันนี้เป็นจริงอันนี้ก็ต้องเป็นเท็จ นี่ก็จะเป็นตรงกันข้าม ก็คือจริง ตรงกันข้ามจริง ถาม ช่องนี้ นิเสธของ q อันนี้จะเป็นอะไรลูก นี่ดูนะ อันนี้คือ T ช่องนี้จะเป็นอะไร ตรงกันข้ามกับ T คืออะไร ถูกต้อง F นะคะ F เพราะว่ามันตรงกันข้าม เป็นนิเสธนะคะ ตัวนี้ล่ะ F เป็นอะไร เป็นจริง ถูกต้องนะคะ ง่ายไหมตัวนี้ อันนี้ล่ะ อันนี้ง่ายไหมลูก ง่ายไหมคะ อันนี้ดูง่ายสังเกตง่าย ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสัญลักษณ์เสธอยู่ข้างหน้าแบบนี้มันจะตรงกันข้ามนะคะ ถ้า T เป็นจริง นิเสธของ p ก็คือเป็นเท็จ นิเสธตรงกันข้าม แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรมาก ตัวนี้ จำได้ไหม จำได้ไหมคะ ทีนี้ไปดู ไปดูคำว่า ถ้าแล้ว นะคะ ถ้า แล้ว นะคะ ถ้าแล้ว ถ้าแล้ว ตัวนี้ ถ้าเหตุการณ์ p เกิดขึ้นแล้วเหตุการณ์ q เกิดขึ้น ถ้าค่าความจริงของ 2 ประโยคนี้เป็นอย่างไร ดูนะ T กับ T นะคะ ถ้า T กับ T ตัวนี้จะเป็นจริง เพราะอะไรนี่ จริงแล้วจริง ก็คือต้องเป็นจริงถูกไหม ทีนี้ จริงแล้วเท็จนะคะ เป็นเท็จ อันนี้ดูข้างหลัง กรณีอันนี้ดูข้างหลังนะคะ ข้างหลังเป็นอะไร อันนี้เป็น F เป็น T นะคะ เหมือนกันเลย แต่ตรงนี้พิเศษนิดหนึ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเหมือนกันทั้ง 2 ตัว เมื่อไหร่ก็ตามที่เหมือนกันทั้ง 2 ตัว ถ้าใช้ประโยคเชื่อม ถ้าแล้ว ถ้าใช้ประโยคที่เชื่อมมันจะเป็นจริงลูก อันนี้คือประโยค ถ้า... แล้ว... นะ ถ้าเมื่อไหร่ที่ค่าความจริงมันต่างกัน ให้ไปดูตัวหลัง ค่าตัวหลังนะคะ มีค่าความจริงเป็นอะไร คำตอบ ก็คือค่าความจริงตัวนั้น อย่างนี้เห็นไหม มันมีจริง มันมีทั้ง 2 ค่าเลย จริง จริง อันนี้ F F เหมือนกันทั้ง 2 ค่า ก็จะเป็นจริงเหมือนกันนะ อย่างงนะลูก ถ้า... แล้ว... ถ้า... แล้ว... ดูดี ๆ อันไหนที่เหมือนกัน มีค่าความจริงเป็นจริงนะคะ ตัวไหนที่มันไม่เหมือนกันให้ไปดูตัวข้างหลัง มันจะตามตัวข้างหลังนะคะ F เห็นไหม มันเป็น F ตัวข้างหลัง มันเป็น F เพราะฉะนั้น เมื่อเชื่อมกันแล้วมันก็จะเป็น F นะคะ มันก็จะเชื่อม ดูข้างหลังเป็นจริง อันนี้จับดี ๆ มันจะงง ๆ หน่อย แต่ถ้าลูกจำได้ มันก็จะง่ายขึ้น อันนี้ประโยคเชื่อม ถ้า... ถ้า p แล้ว q p มันขึ้นก่อน นี่ P มันขึ้นก่อน ตัว p มันขึ้นก่อน เกิดขึ้น เข้าใจนะ โอเคไหมลูก งงไหม อันนี้ งงไหม งงไหม เข้าใจนิดหนึ่ง ตัวนี้น่ะมันก็จะแบบยากขึ้นมาหน่อยนะลูก ไม่เหมือน และ แล้วก็ หรือ ง่ายสุด นิเสธนี่ง่ายสุด เพราะมันตรงกันข้าม เดี๋ยวค่อยฝึกไปเรื่อย ๆ นะคะ มาตัวสุดท้าย สัญลักษณ์ตัวนี้คืออะไร นี่ ก็ต่อเมื่อ ก็ต่อเมื่อนะคะ เป็นตัวเชื่อมที่มี... ที่จะให้ค่าความจริงเหมือนทั้ง 2 ประพจน์เลย นะ อันนี้เหมือนทั้ง 2 ประพจน์นะคะ อันนี้จะเป็นอะไรคะ เป็นจริง อันนี้ก็เป็นอะไร เป็นเท็จ ลักษณะคล้ายกัน อันนี้เป็น เป็นอะไรคะ เป็นเท็จ อันนี้เป็นจริงนะคะ ลักษณะคล้ายกันเลย ต่างกันตรงไหนลูก ตัวนี้ถูกไหม ตัวนี้กับตัวนี้ ช่องนี้นะคะ ตัวแรก ช่องแรกนี่ T เหมือนกันเลย อันนี้ F เหมือนกัน T เหมือนกันในช่องที่สุดท้าย แต่ช่องที่ 3 นี่ลูกเห็นไหม ถ้า... แล้ว... ก็ต่อเมื่อ ตัวนี้ ถ้าแล้ว ดูข้างหลังถูกไหมคะ แต่เมื่อไหร่มันมี F ตัวเดียว มันก็เป็น F อันนี้จะงง ๆ หน่อย เดี๋ยวนักเรียนต้องจำนะคะ แล้วก็ทำ... เดี๋ยวครูจะทำให้ฝึกเยอะ ๆ จำสัญลักษณ์ให้ได้ แล้วก็จำสมบัติมันให้ได้นะคะ ตัวนี้มันนิดเดียว ถ้า... แล้ว ถ้าดู ถ้า... แล้ว นี่ ประเด็นเลย มันจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อทั้ง 2 ค่าเป็นจริงหรือเป็นเท็จ คือพบทั้ง 2 ค่าที่เหมือนกันลูก ค่าความจริงที่เป็นจริงนะคะ แต่ถ้าเมืี่อไหร่ที่ทั้ง 2 ค่า ไม่เหมือนกันนะคะ มันมีอันใดอันหนึ่ง ให้ไปดูตัวข้างหลัง ตามตัวข้างหลังเลยนะคะ ตัวนี้ แล้วก็มาดูตรงก็ต่อเมื่อ ก็ต่อเมื่อนี่ จะต่างกัน มันจะเป็นก็ต่อเมื่อ พบทั้ง 2 อัน ที่เหมือนกัน ที่เหมือนกันก็จะเป็นจริง T T เหมือนกันก็จะกลายเป็นจริง นอกนั้นก็ไม่ต้องมาดูหน้าหลังแล้วไม่ต้องมาดูหน้าหลัง มันมีอันใดอันหนึ่งที่มันไม่เหมือนกัน แสดงว่ามันเป็นเท็จแล้วลูก อันนี้เดี๋ยวเราค่อยมาจับมันอีกทีหนึ่ง โอเคนะ โอเค ถามไหมคะ งงไหม ถามไหมอันนี้ ไม่งง เดี๋ยวอันนี้ครูจะให้บันทึกนะคะ เดี๋ยวสัปดาห์หน้าครูจะทำแบบฝึกค่าความจริงมาให้ลูก ๆ ได้เล่นกัน เดี๋ยวมาเล่นเกมลูกจะจำได้มากขึ้น ตอนนี้ ก็คือให้รู้ก่อน ว่าค่าความจริงเวลาประพจน์เอามาเชื่อมกัน 2 ประพจน์นะลูก เวลาเอามาเชื่อมกัน มีตัวไหนบ้างที่เอามาเชื่อมกัน มันก็จะมีอยู่ 5 ค่าด้วยกันนะคะ ก็คือสัญลักษณ์ และ นะคะ และนี่ก็คือคว่ำลงนะ และ อันที่ 1 นี่ และ อันที่ 2 หรือ หรือนี่ หงายขึ้นนะคะ ถ้า... แล้ว... หัวลูกศรมีอันเดียวนะคะ ชี้ไปทางเดียว ก็ต่อเมื่อมีหัวลูกศรอยู่ทั้ง 2 ข้างด้วยกัน ชี้ไปข้างหน้า แล้วก็ข้างหลังนะลูก และตัวสุดท้ายคือ นิเสธ สัญลักษณ์นิเสธนะคะ เหมือนคลื่นเลย เหมือนคลื่นเลย ถ้าตรงกันข้าม ถ้าประพจน์ข้างหน้ามันเป็นจริง ถ้านิเสธก็จะเป็นเท็จ นี่ตรงกันข้ามง่ายมากเลยลูกตอบได้ถูกต้องหมดเลย ที่ลูกมีปัญหาก็คือข้างหลังนี่แหละ ถ้า... แล้ว... ก็ต่อเมื่อ ใช่ไหม อันนี้จะจำยาก งง ๆ งงไหมเจ็ก งงไหมลูก พอเข้าใจไหม เข้าใจ เข้าใจ เจ็กเข้าใจนะคะ ดีมาก รู้สึกจะมีเข้าใจอยู่คนเดียว เดี๋ยวให้... เดี๋ยวเพื่อน ๆ นี่ ทำกิจกรรม จะได้เพิ่มความเข้าใจมากขึ้นนะคะ มีคำถามไหมคะวันนี้ หมดเวลาแล้ว ลูก ๆ ถามไหม มีคำถามอะไรไหมวันนี้ เราเรียนเรื่องของอะไรคะ ประพจน์นะคะ วันนี้เราเรียนทบทวนเรื่องของประพจน์ แล้วเราเรียนเรื่องตัวเชื่อมประพจน์นะคะ ซึ่งตัวเชื่อมมันก็จะมีรตารางออกมานะ ที่ครูพาทำตารางหาค่าความจริงออกมา เดี๋ยวตัวนี้ ครูจะให้ทำใบงานด้วยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วไปเรียนอะไรต่อลูก ไปเรียนอะไรต่อ วิชาอะไรคะ เรียนภาษาอังกฤษ โอเค วันนี้ขอบคุณพี่ล่ามมาก ๆ นะคะ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ [สิ้นสุดการถอดความ]